คุกกี้สิงคโปร์ สูตรเฉพาะที่คุณต้องลองหวานละมุนจนหยุดไม่ได้

คุกกี้ เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่หลายคนนึกถึง เพราะสามารถกินได้ทุกที่แบบเพลิน ๆ ซึ่งตัวของ คุกกี้ เองก็มีหลายประเภททั้งแบบธรรมดาที่ไม่ต้องปรุงแต่งอะไรเพิ่ม หรือบางประเภทที่มีรสชาติต่าง ๆ เข้ามาเสริมความอร่อย อย่าง คุกกี้สิงคโปร์ ที่มีขายกันเกลื่อน ด้วยแคลอรีที่ไม่มากก็เลยไม่แปลกที่จะกินได้บ่อย ๆ โดยในวันนี้เราจะนำสูตรของความอร่อยจาก คุกกี้สิงคโปร์อบควันเทียน เป็นขนมที่สามารถรับประทานได้ทุกโอกาส ไม่ว่าจะเป็นงานเลี้ยงสังสรรค์ งานเทศกาล หรือแม้แต่เป็นของว่างยามบ่ายก็ได้อีกเช่นกัน และเรานำสูตรการทำนี้มาฝากกัน บอกได้เลยว่า รสชาติดี แถมละลายในปากแน่นอน แต่บอกก่อนนะคะว่ามันเหมาะสำหรับคนมีเตาอบ

สูตรการทำ คุกกี้สิงคโปร์อบควันเทียน

วัตถุดิบ / เครื่องปรุง

– แป้งสาลีอเนกประสงค์
– แป้งมัน
– น้ำตาลไอซ์ซิ่ง
– เนยจืด
– น้ำมันปาล์ม
– เม็ดมะม่วงหิมพานต์
– เทียนอบขนม
– ไข่แดง
– เกลือป่น
– กลิ่นวนิลา     

ขั้นตอนการทำ

1. วอร์มเตาอบด้วยอุณหภูมิ 160 องศาเซลเซียสรอไว้

2. เทแป้งสาลีอเนกประสงค์, แป้งมัน, น้ำตาลไอซ์ซิ่ง, และน้ำมันพืชลงไปในอ่างผสม

3. สับเนยจืดไม่ต้องละเอียดมากแล้วใส่ตามลงไปในอ่างผสม จากนั้นคลุกเคล้าส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน

4. ปั้นแป้งให้เป็นก้อนกลมแล้วพักทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที

5. ระหว่างรอให้นำกระดาษไขปูไว้ที่ถาดอบ

6. เมื่อครบกำหนดเวลาให้นำแป้งมารีดเป็นแผ่น หนาประมาณ 4 เซนติเมตร

7. ใช้ที่กดคุกกี้กดให้แป้งออกมาเป็นชิ้น ๆ แล้วนำไปเรียงบนถาดอบ

8. ผสมไข่แดง, เกลือป่น และกลิ่นวนิลาให้เป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นนำไปทาบนหน้าคุกกี้

9. วางเม็ดมะม่วงหิมพานต์ที่ผ่าครึ่งแล้วลงบนหน้าคุกกี้แล้วทาไข่แดงอีกรอบ

10. อบคุกกี้ด้วยอุณหภูมิ 160 องศาเซลเซียส ประมาณ 12 นาที

11. เมื่อครบ 12 นาที ให้นำออกมาพัก แล้วอบอีกครั้งด้วยอุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส ต่ออีก 5 นาที

12. นำคุกกี้ที่ได้ออกมารอให้เย็นแล้วนำไปใส่หม้ออบควันเทียนให้หอม จากนั้นก็สามารถกินได้เลย

เทคนิคการทำคุกกี้สิงคโปร์ให้ละลายในปาก

เทคนิคการทำคุกกี้สิงคโปร์ให้ละลายในปาก ก็มีหลายอย่างที่ผู้ทำจะต้องเข้าใจ เช่น การเลือกใช้น้ำมันจะต้องเลือกใช้น้ำมันปาล์ม หรือน้ำมันหมู เพราะมีความอิ่มตัวมากกว่าน้ำมันพืช หรือความหอมของการอบควันเทียนที่ต้องใช้เวลาถึง 30 นาที ซึ่ง ถ้าถามว่า คุกกี้สิงคโปร์ เก็บได้กี่วัน สูตรนี้สามารถเก็บใส่ขวดโหลไว้กินวันหลังได้อีก โดยอายุการเก็บของมันหากอยู่นอกตู้เย็นสามารถอยู่ได้ประมาณ 2 เดือน แต่ถ้าเก็บในตู้เย็นอยู่ได้นานถึง 4 เดือน แต่จะต้องปิดฝาให้สนิทไม่ให้มีอากาศเข้าไปไม่อย่างนั้นจะทำให้เกิดความชื้น